Home » ข่าว » บัณฑิตแห่เรียนแพทย์แผนไทย!คลินิกที่วัดโคก/ปลักคล้าคึกคัก

บัณฑิตแห่เรียนแพทย์แผนไทย!คลินิกที่วัดโคก/ปลักคล้าคึกคัก

หนังสือพิมพ์ภูมิภาค รายสัปดาห์ ของคนใต้ ปีที่ 26 ฉบับที่ 1,322 วันที่ 12 – 18 กุมภาพันธ์ 2567

ชาวท่าข้ามร่วมรับบริการแพทย์แผนไทยจากนักเรียน/ศิษย์เก่า “ร.ร.หาดใหญ่เวชกรรมไทย” เผยหลักสูตรระยะยาว 3 ปี ทั้งผู้จบป.ตรีถึงเอกเข้าเรียนเต็ม โดยคลีนิกปกติ เปิดที่ “วัดโคกสมานคุณ” หาดใหญ่ กับ “วัดปลักคล้า” คลองหอยโข่ง

  8 กุมภาพันธ์ 2567 โรงเรียนหาดใหญ่เวชกรรมไทย ร่วมกับ อบต.ตำบลท่าข้าม อ.หาดใหญ่จ.สงขลา จัดกิจกรรม “แพทย์แผนไทยหัวใจอาสา” ณ สำนักงานอบต.ท่าข้าม ตั้งแต่เวลา 9.30-15.30 น. กิจกรรมประกอบด้วย การตรวจวินิจฉัยโรคแนวทางแพทย์แผนไทย บริการนวดรักษาอาการเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ วัยทอง เข่าเสื่อม สะบักจม อาการปวดตามร่างกาย ปรึกษาปัญหาการดูแลสุขภาพในกลุ่มผู้สูงอายุ และบุคคลทั่วไป ฯลฯ โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และนักศึกษาของโรงเรียนฯ


นายมานพ ประทุมทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนหาดใหญ่เวชกรรมไทย กล่าวว่า ในระบบสังคมไทย ปัจจุบันและในอนาคต จำเป็นต้องอาศัยการแพทย์หลายๆ ระบบในลักษณะแพทย์ทางร่วม เพื่อดูแลรักษากลุ่มเป้าหมายในสังคม เช่น ผู้สูงอายุ ประชาชน
ตามหมู่บ้านชุมชน ร่วมกับการแพทย์แผนปัจจุบัน “หลักของแพทย์แผนไทย ที่สำคัญอย่างแรกคือ เป็นระบบของการป้องกันความเจ็บป่วย สองเป็นระบบของการฟื้นฟูหรือการรักษาโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่ม NCDs เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดสมอง มะเร็งชนิดต่างๆ ซึ่งเป็นกลุ่มโรครักษาไม่หาย และสาม เป็นระบบการรักษาโรคที่ไม่ใช่อุบัติเหตุ” ผอ.มานพ กล่าว และว่า
องค์กรที่ผมดูแลอยู่ภายใต้ “มูลนิธิสถาบันการแพทย์แผนไทยและหมอพื้นบ้านภาคใต้” ทำกิจกรรม
หลักๆ 4 เรื่องคือ 1 การเรียนการสอน คือ โรงเรียนหาดใหญ่เวชกรรมไทย เปิดตั้งแต่ปี 2560 ตั้งอยู่ที่วัดโคกสมานคุณ อ.หาดใหญ่ มีการเรียน 6 หลักสูตรหนึ่ง หลักสูตรระยะสั้น เรียนนวดแผนไทยและสมุนไพร 150 ชั่วโมง จบแล้วสามารถเปิดร้านเป็นผู้ให้
บริการนวดได้ สอง หลักสูตรผู้ช่วยแพทย์แผนไทย 330 ชั่วโมง สามารถรักษาอาการ 13 อาการโรค คนที่จบสามารถทำงานในโรงพยาบาลของรัฐ เช่น รพ.สต. หรือเปิดกิจการร้านนวด สำหรับหลักสูตรระยะยาวมี 4 หลักสูตร คือ หนึ่ง หลักสูตรการผดุงครรภ์ไทย ใช้เวลาเรียน 1 ปี สอง หลักสูตรเภสัชกรรมไทย ใช้เวลาเรียน 2 ปี สามหลักสูตร นวดไทย สามารถรักษาได้ 50 โรคโดยไม่ใช้ยา ใช้เวลาเรียน 2 ปี และสี่ หลักสูตรเวชกรรมไทยใช้เวลาเรียน 3 ปี ซึ่งจะเรียนรู้หลักสูตรทั้งหมด เมื่อจบ แล้วสามารถเปิดคลีนิคแพทย์แผนไทยได้โดยจะสอบเพื่อรับใบประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทยกับสภาการแพทย์แผนไทย


กิจกรรมที่ 2 เรามีสถานพยาบาลเป็นคลินิก 2 แห่งคือ สมานคุณคลีนิกการแพทย์แผนไทย ตั้งอยู่ที่วัดโคกสมานคุณ และปลักคล้าคลินิกการแพทย์แผนไทย ที่วัดปลักคล้า อ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
กิจกรรมที่ 3 คือการทำสวนสมุนไพรเพื่อนำมาผลิตและใช้เอง รวมทั้งส่งเสริมการปลูกในชุมชน ส่วนกิจกรรมที่ 4 คือ การออกหน่วยบริการชุมชน ซึ่งวันนี้ที่สำนักงานอบต.ท่าข้าม ได้นำแพทย์และนักศึกษา ประมาณ 40 คนให้บริการ
“เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่เราทำอยู่เสมอ ทั้งเพื่อช่วยเหลือประชาชนด้านสุขภาพ ด้วยองค์ความรู้แพทย์แผนไทย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และได้นำนักศึกษาบางส่วนจากทุกหลักสูตรของเราไปเก็บเคสการเรียนในภาคปฏิบัติ” ผอ.มานพ กล่าว


นางละออ ผ่องผุด ชาวบ้าน ม.3 ต.ท่าข้าม กล่าวว่า วันนี้มารับบริการนวด จากอาการปวดต้นคอและมึนศีรษะ หมอวินิจฉัยว่าเกิดจากอาการเส้นประสาทตึง แล้วทำการนวดจากศีรษะ ต้นคอ แขน ไหล่ลงไปถึงหลังตามกระบวนการ และสุดท้ายเป็นการเปิดประตูลม
“มีความรู้สึกสบายมากขึ้น ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง หมอแนะนำว่าหลังจากนี้ให้รับการนวดคลายเส้นโดยต่อเนื่อง” นางละออ กล่าว และว่าการนวดคลายเส้นแบบแพทย์แผนไทยดีกว่าที่จะไปกินยาแพทย์แผนใหม่เพื่อคลายเส้น แม้ว่าวิธีนี้ต้องใช้เวลาในการบำบัดรักษานานหน่อย แต่ก็ดีกว่า เพราะหากกินยาแก้ปวดเมื่อยเป็นประจำอาจมีผลต่อระบบไตได้ ซึ่งจากนี้จะเข้ารับการนวดให้ถี่ครั้งมากขึ้น เพราะมีบริการที่รพ.สต.อยู่แล้ว


น.ส. กนิดา พรหมจันทร์ แพทย์แผนไทยวิชาชีพ/อาจารย์ฝ่ายบริหาร ร.ร.หาดใหญ่เวชกรรมไทย กล่าวว่า วันนี้โรงเรียนฯ นำนักเรียนมาร่วมให้บริการ 20 คน รวมกับศิษย์เก่าของโรงเรียน ซึ่งเป็นอาจารย์สอนแพทย์แผนไทยอีก 20 คน
ซึ่งปกติจะลงพื้นที่ให้บริการเดือนละครั้งหรือสองครั้ง เพื่อการฝึกปฏิบัติของนักเรียนและช่วยประชาชนที่เจ็บป่วยตามชุมชน
“ที่ผ่านมาจะให้บริการตามอบต. เทศบาล หรือในชุมชน โดยต้องดูความเหมาะสมของสถานที่ที่ต้องมีความสะอาด ไม่มีมลพิษแวดล้อม” น.ส.กนิดา กล่าว และว่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อาจารย์ที่มาช่วยบริการก็จะออกกันเอง เป็นลักษณะจิตอาสา และทาง
โรงเรียนฯ จะรับผิดชอบเรื่องอาหาร ส่วนอบต.หรือเทศบาลก็อนุเคราะห์เรื่องสถานที่การเก็บเคสของนักเรียนจำเป็นต้องรักษา


ผู้ป่วยจริงๆ เพราะจะมีกระบวนการ ตั้งแต่ตรวจความดันโลหิต หากสูงก็นวดไม่ได้ การซักประวัติ การตรวจวินิจฉัยโรคต่างๆ แต่ละเคสสามารถนวดได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งต้องมีอาจารย์คอยควบคุมและให้คำแนะนำอย่างไกล้ชิดการที่ผู้ป่วยหายและปลอดภัยคือ หัวใจของแพทย์ เราพานักเรียนมาฝึกเจอผู้ป่วยจริงๆ และได้ช่วยเหลือชาวบ้าน ซึ่งบางคนไม่มีกำลังจะไปใช้บริการนวดชั่วโมงละ 300 บาท เราช่วยเหลือ หรือแม้กระทั่งให้คำแนะนำการปฏิบัติตนในการป้องกันรักษา


ปัจจุบันคลินิกทั้งสองแห่งมีจำนวนผู้ป่วยใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นนัยยะสำคัญ นั่นคือ สมานคุณคลินิกการแพทย์แผนไทย ที่เปิดมาร่วม 6 ปี จุดเด่นคือเน้นการรักษาโรคแก้อาการของโรคและดูแลแม่หลังคลอดที่ตรวจวินิจฉัยโดยแพทย์แผนไทย และ ปลักคล้าคลินิกการแพทย์แผนไทย ที่เปิดมาร่วม 3 ปี ก็มีผู้รับบริการเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน จุดเด่นคือการมีคุณหมอที่ดูแลรักษาเป็นผู้มีประสบการณ์มาก ทั้งผู้รับบริการและให้บริการมีความพึงพอใจ เนื่องจากประชาชนเริ่มเห็นความสำคัญของการแพทย์แผนไทย ในอดีตอาจถูกมองว่าเป็นการแพทย์ทางเลือก แต่ปัจจุบันเราพูดได้เต็มปากว่าแพทย์แผนไทยสามารถรักษาสุขภาพประชาชนได้จริง
“ตอนนี้หลักสูตรระยะยาว 3 ปี (6 เทอม) ได้รับความนิยมเรียนกันมาก ทั้งคนที่จบปริญญาตรีกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ และปริญญาโทกับเอกก็เข้ามาเรียน”ห้องเรียน 30 คน นักเรียนเต็ม เพราะค่าเทอมถูกมาก เทอมละ 5,500 บาท เรียนจบสอบผ่านได้รับใบประกอบวิชาชีพแพทย์แผนไทย สามารถสร้างกิจการบริการรักษาได้


นางสิริน ชีพชัยอิสสระ นักวิชาการอิสระ กล่าวว่า วันนี้มาในฐานะทีมทำงานร่วมกับร.ร.หาดใหญ่เวชกรรมไทย เพราะได้มาช่วยในเรื่องการพัฒนาบุคลิกภาพของนักเรียน เพื่อยกระดับมาตรฐานการบริการให้ได้รับการยอมรับมากขึ้น ทั้งองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และทักษะการบริการ การสื่อสารและบุคลิกภาพที่ดี
“วันนี้มาพร้อมกับท่านเจ้าอาวาสวัดปลักคล้าเพื่อมาดูอาคารของอบต.ท่าข้ามที่มีสถาปัตยกรรมสวยงาม ประยุกต์เอาความเก่าและใหม่สอดรับอย่างน่าสนใจ เพื่อเป็นต้นแบบที่จะพัฒนาอาคารคลีนิกปลักคล้าการแพทย์แผนไทย ไปเป็นโรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยที่วัดปลักคล้า โดยแนวคิดให้วัดเป็นสถานที่ช่วยเหลือประชาชน ทั้งด้านการศึกษา สุขภาพ และคุณภาพชีวิต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาดูแบบ” นางสิริน กล่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *