หนังสือพิมพ์ภูมิภาค รายสัปดาห์ ของคนไต้ ปีที่ 26 ฉบับที่ 1,331 วันที่ 22 – 28 เมษายน 2567
นับถอยหลัง 30 วัน ครบกำหนดรื้อโพงพาง ในทะเลสาบสงขลา ”นายกชาย” ยอมรับ 5 แสนราคาสูง เตรียมนัดต่อรองใหม่ หากไม่สำเร็จก็ยอม ด้านประมงจังหวัดยันทำตามกฎหมาย พร้อมตัดวงจรค้าขายสัตว์น้ำวัยอ่อน
จากกรณีที่สำนักงานประมงจังหวัดสงขลา ออกไปติดประกาศแจ้งเตือนผู้ติดตั้งเครื่องมือโพงพางบริเวณร่องน้ำทะเลสาบสงขลาให้ “รื้อถอน” โพงพางที่สร้างรุกล้ำร่องน้ำ ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ วันประกาศ 9 กุมภาพันธ์ 2567
ต่อมา ชาวบ้านเจ้าของโพงพางได้ รวมตัวกัน และเรียกร้องผ่านทางหลาย ๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี “นายกชาย” นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.เขต 5 สงขลา/เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเรียกร้องให้จังหวัด ยกเลิกการรื้อโพงพาง และเรียกร้องเงินค่าชดเชยในการรื้อโพงพาง ช่องละ 500,000 บาท พร้อมกับชะลอคำสั่ง ยื้อเวลาการรื้อโพงพาง และหาข้อสรุปแนวทางการแก้ไขที่ไม่กระทบและสร้างความเดือดร้อนกับชาวประมงไม่เกินเดือนพฤษภาคม 2567
ขณะที่ เครื่องมือประมงผิดกฎหมายชนิดโพงพาง ยังคงเกลื่อนทะเลสาบสงขลา โดยเฉพาะ ในส่วนที่ถูกระบุว่า อยู่ในร่องน้ำ ที่กีดขวางการเดินเรือ จำนวน 158 ช่อง 13 แถว ซึ่งทั้งหมดถูกปิดประกาศให้รื้อถอนออกไป และขณะนี้อยู่ระหว่างคำสั่งชะลอการรื้อถอนของสำนักงานประมงจังหวัดสงขลา โดยมีกำหนดสิ้นสุดระยะเวลาในวันที่ 19 พฤษภาคม 2567 จึงเข้าสู่ช่วงนับถอยหลัง 30 วัน ในการรื้อถอนเครื่องโพงพางที่กีดขวางร่องน้ำออกไป
นายกชาย กล่าวว่า ภายหลังจากมีการเรียกร้องเงินค่าชดเชยรายละ 500,000 บาท ซึ่งทางจังหวัดคงไม่ยอมจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวให้เจ้าของโพงพาง เนื่องจากหน่วยงานรัฐไม่สามารถหาเงินงบประมาณมาจ่ายให้ได้
“เร็ว ๆ นี้ ผมจะนัดเจ้าของโพงพางอีกครั้งเพื่อเจรจาต่อรองขอลดเงินค่าชดเชยให้น้อยลงจากเดิม” นายกชาย กล่าว และว่า
หลังจากนั้น ก็จะนำเรียนผู้ว่าฯ สงขลา เพื่อหารือในการหาเงินมาเป็นค่าชดเชยต่อไป ซึ่งหากเจ้าของโพงพางไม่ยอมรับ ตนก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมาย
ด้าน นายเจริญ โอมณี ประมงจังหวัดสงขลากล่าวว่า ยังไม่ได้มีการเรียกประชุมร่วมกันระหว่างหน่วยเกี่ยวข้อง ต่อกรณีการรื้อถอนเครื่องมือโพงพางในส่วนที่กีดขวางร่องน้ำทะเลสาบสงขลาหลังจากครบกำหนดเมื่อ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และ ได้ขยายเวลาเพื่อแก้ปัญหา ลดผลกระทบ ที่อาจจะเกิดขึ้น และมีกำหนดรื้อถอน 19 พฤษภาคม ซึ่งในส่วนของประมงจังหวัดสงขลาก็ได้เตรียมความพร้อมในการดำเนินการส่วนจะมีคำสั่งการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ยังมีเวลาอีกประมาณ 30 วัน ในการพิจารณา
“นอกจากเครื่องมือประมงผิดกฎหมายอย่างโพงพางแล้ว ก็ยังมีไซหนอน และอวนรุน ที่ชาวประมงใช้เครื่องมือเหล่านี้กันในวงกว้าง ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทำลายล้าง เพราะกวาดจับสัตว์น้ำวัยอ่อนทุกชนิด ทำให้ภาคประชาชนต่างกังวลและเรียกร้องให้มีการ
ใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาด
“สำนักงานประมงจังหวัดสงขลา ยืนยันว่าได้มีการปราบปรามจับกุมอย่างเข้มข้นเพิ่มมากขึ้น พร้อมประชาสัมพันธ์พ่อค้าแม่ค้างดการซื้อลูกปูม้าและสัตว์น้ำวัยอ่อนมาขาย ตัดวงจรการทำประมงประผิดกฎหมายอีกทางหนึ่งด้วย“ ประมงจังหวัดสงขลา กล่าว
