คอลัมน์ PSU Alumni Talk โดยสมาคมศิษย์เก่า
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ฉบับนี้ มาคุยกับ คุณกิติศักดิ์ สังข์แก้ว ศิษย์เก่าดีเด่น ม.อ. ด้านประสบความสำเร็จในอาชีพ และหน้าที่การงาน ซึ่งเกษียณจากการทำงานในตำแหน่ง กรรมการบริหาร บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบ
ดูแลซัพพลายเชน งานบริการลูกค้าและโลจิสติกส์ ของประเทศไทย เวียดนาม พม่า ลาว และกัมพูชา
“ผมเกิดที่จังหวัดยะลา ย้ายมาอยู่หาดใหญ่ ตั้งแต่ประถมปลาย เข้าเรียนคณะวิศวกรรมศาสตร์ เมื่อปี 2523 เรียนวิศวกรรมอุตสาหการ แล้วไปต่อปริญญาโท MBA ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์”ระหว่างเรียน เป็น “ประธานนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์” และประธานจัดการกีฬาประเพณีวิศวกรรมศาสตร์ 8 สถาบัน (8 เกียร์) เรียนจบปี 2527 อยากทำงานบริษัทต่างชาติ เพราะเชื่อว่าได้ความรู้ได้ระบบที่ดีกว่า จึงสมัครและได้ร่วมงานที่บริษัท คอลเกต-ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด เติบโตในหน้าที่การงานได้เป็นหนึ่งในทีมงานวิศวกรที่สร้างโรงงานคอลเกต ที่ทันสมัยที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี
เมื่อโรงงานเปิดดำเนินการ ได้เป็น “ผู้จัดการฝ่ายผลิต” คนแรก หลังจากนั้นได้รับความไว้วางใจจากผู้ใหญ่และบริษัทแม่ให้ไปเป็นผู้จัดการโรงงานคอลเกต ที่ประเทศจีน ที่บริษัทซื้อกิจการ ซึ่งมีพนักงานกว่า 5,000 คน
“เป็นงานที่เหนื่อย แต่ก็ได้มีโอกาสทำงานกับทีมงาน ปรับปรุง พัฒนาโรงงาน จนเป็นโรงงานที่ล้ำหน้าโรงงานหนึ่งของคอลเกตทั่วโลก” คุณกิติศักดิ์ เล่าถึงความภาคภูมิใจในการทำงาน และว่า
เมื่อกลับมาประเทศไทย รับผิดชอบเป็นผู้อำนวยการฝ่ายโรงงาน ได้เป็น “กรรมการบริหาร” ซึ่งมีคนไทยไม่กี่คนได้รับเกียรตินี้ จากฝ่ายโรงงาน ได้โยกย้ายไปทำด้านซัพพลายเชน บริการลูกค้าและโลจิสติกส์ รวมถึงเป็นตัวแทนบริษัทฯ มาเป็น “กรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย” เคยเป็นประธานกลุ่ม Efficient Consumer Response (ECR) สร้างความสัมพันธ์และเพิ่มประสิทธิภาพระหว่างผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค (เช่น ยูนิลีเวอร์ คอลเกต เนสท์เล่ สหพัฒน์) กับร้านค้าปลีก (เช่น โลตัส บิ๊กซี ท็อป) เพื่อให้ผู้บริโภคได้ผลประโยชน์สูงสุด
หลังจากนั้น ได้ขยายความรับผิดชอบดูแลซัพพลายเชน งานบริการลูกค้าและโลจิสติกส์ ของประเทศไทย เวียดนาม พม่า ลาว และกัมพูชา
“ผมได้ร่วมกับทีมผู้บริหารคอลเกตทำงานกับ
ประธานและกรรมการสหภาพแรงงานพนักงานคอลเกต ช่วยกันลดช่องว่างในการทำงาน มีแรงงาน
สัมพันธ์ที่ดี จนได้รับยกย่องจากแรงงานจังหวัดว่าเป็นโรงงานที่มีแรงงานสัมพันธ์ดีเด่น”
“คอนเน็คชั่น” เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราก้าวหน้า พร้อมความรู้ และการทำงานหนัก
โดยเมื่อเรียนหนังสือ ต้องเรียนให้รู้จริง เข้าใจหลักการ นำไปปฏิบัติหรือประยุกต์ได้ เมื่อทำงานต้องทำแบบเต็มความสามารถ ทุ่มเท ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย มีน้ำใจ ให้กำลังใจทีมงาน ให้เครดิตลูกน้อง
“ผมบอกตัวเองตลอดว่าทุกความสำเร็จ ลูกน้อง และทีมงานเป็นผู้ขับเคลื่อน”
ต้องเชื่อว่าบุคลากรเป็นกลไกที่สำคัญ ต้องเข้าใจแรงงานสัมพันธ์ ไม่เอารัดเอาเปรียบ ไม่สร้างเงื่อนไขให้เกิดช่องว่าง และต้องช่วยผลักดันให้ทีมงานเติบโตในหน้าที่การงานโดยไม่ลำเอียง ไม่เล่นพรรคเล่นพวก
ที่สำคัญที่สุดต้องซื่อสัตย์สุจริต มีจริยธรรมในการทำงาน เมื่อขึ้นมาเป็นผู้บริหาร ซื่อสัตย์อย่างเดียวไม่พอ ต้องมั่นใจว่า ระบบการทำงานของเราไม่มีข้อบกพร่อง เห็นอะไรผิดปกติ ต้องเข้าไปแก้ไขทันที อย่าเมินเฉยว่า ไม่ใช่เรื่อง “คอนเน็คชั่น เป็นสิ่งที่ดีทำให้อุปสรรคในการทำงานน้อยลง แต่ต้องระวัง ต้องใช้ให้ถูกและมีธรรมาภิบาล”
คุณกิติศักดิ์ มองว่า ทุกวันนี้การแข่งขันรุนแรงมาก และยืนยันว่า “พื้นฐาน หรือ Fundamentals” ยังเป็นสิ่งจำเป็น คือต้องมีความรู้ เอาไปประยุกต์เป็น มีแรงงานสัมพันธ์ที่ดี สร้างคน พัฒนาคนให้เติบโต และต้องซื่อสัตย์สุจริต
ขณะเดียวกัน ต้องเรียนรู้ตลอดเวลา ผลักดันด้านดิจิทัล ต้องทันเทคโนโลยี เอามาใช้ให้เป็นและรวดเร็ว อย่าตามกระแสอย่างเดียว ต้องเข้าใจความเหมาะสม
“ผมจะรู้สึกสลดใจทุกครั้งเมื่อเห็นข่าวทุจริต คอร์รัปชั่น หรือไร้ธรรมมาภิบาล โดยเฉพาะต้นเหตุที่มาจากผู้บริหารระดับสูง”
จึงอยากให้คนไทยมีความซื่อสัตย์ สุจริต และผู้ใช้กฎหมาย เอาจริงกับเรื่องนี้
“ผมเชื่อว่าทุกบริษัทต้องการคนเก่ง แต่ต้องเป็นคนดีด้วย”
คุณกิติศักดิ์ ยังฝากแง่คิดที่น่าสนใจว่า การเรียน
ในมหาวิทยาลัย ใช้เวลาไม่นาน เพียง 4-5 ปี ทุกคนมีเพื่อน มี่พี่ มีน้อง แต่ชีวิตทำงานมันกว้างกว่านี้ ต้องมี
การทำงานเป็นทีมที่ดี บริหารความหลากหลาย ไม่เล่นพรรค เล่นพวก ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ผมมั่นใจว่าองค์กรของท่านจะเติบโตแน่นอน
