อบจ.สงขลา ร่วมกับ กอจ.สงขลา และเทศบาลเมืองคลองแห จัดงาน วากัฟ ครั้งที่ 2 “สร้างสรรค์สังคมพหุวัฒนธรรม และเมาลิดสัมพันธ์เมืองคลองแห”
องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ร่วมกับ คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา สมาพันธ์คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ มัสยิดบ้านเหนือ และ เทศบาลเมืองคลองแห จัดงานวากัฟ ครั้งที่ 2 “สร้างสรรค์สังคมพหุวัฒนธรรม และเมาลิดสัมพันธ์เมืองคลองแห” ระหว่างวันที่ 5-7 ก.ค. 67 ณ มัสยิดกลางจังหวัดสงขลา
ในงานมีกิจกรรม เวทีสานเสวนาการอยู่รวมกันท่ามกลางความหลากหลาย ในสังคมพาหุวัฒนธรรมจากผู้นำ 3 ศาสนา กิจกรรมรำลึก ศาสดามุฮัมหมัด (ซล.) การออกร้านขายอาหาร สินค้าฮาลาลกระตุ้นเศรษฐกิจฮาลาลไทย และการท่องเที่ยววิถีวัฒนธรรมอิสลาม
โดย วันที่ 5 ก.ค. ประธานเปิดงานโดย อาจารย์ อรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี วันที่ 6 ก.ค. นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานเปิดงานและวันที่ 7 ก.ค. พล.ต.ต. สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการกก.กลางอิสลามแห่งประเทศไทย เป็นประธานเปิดงาน
ดร.อับดลรอหมาน กาเหย็ม
รองนายกอบจ.สงขลา ในฐานะประธานจัดงาน กล่าวว่า ในงานมีกิจกรรมการเสวนาโดยตัวแทน 3 ศาสนา กิจกรรมและการแสดงของนักเรียน ชมรมฟัรฎูอีน ฯลฯ “ในฐานะประธานจัดงาน คาดว่าพี่น้องชาวมาเลเซียจะเข้ามาร่วมงานจำนวนมาก ส่วนหนึ่งจากการเชิญชวนของเรา กับที่เข้ามาเที่ยวโดยปกติ ซึ่งมัสยิดกลางจังหวัดสงขลาได้กลายเป็นจุดหมายหนึ่งในการเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดสงขลาของนักท่องเที่ยวต่างประเทศและในจังหวัดใกล้เคียง หรือจากจังหวัดที่ห่างใกล คาดว่าในวันงานจะเข้ามาจำนวนมาก”
รองนายกอบจ.สงขลา กล่าว และว่า ขอให้พี่น้องในพื้นที่ได้ช่วยต้อนรับแขกที่เข้ามาเยี่ยมเยียนเรา ได้เห็นความสามัคคีและจะได้เป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ความเป็นพหุวัฒนธรรมของจังหวัดเรา เห็นถึงจุดประสงค์ในการจัดงานของเรา เนื่องจากในการจัดงานเราไม่ได้แค่ต้องการแค่รับเงินบริจาคเท่านั้น แต่ต้องการสร้างสังคมสมานฉันท์ในความเป็นพหุวัฒนธรรม ให้เขาเห็นว่าเราอยู่กันอย่างสงบสุข สร้างความเชื่อมั่นให้กับเขาได้กลับไปประชาสัมพันธ์บอกต่อกับคนอื่นๆ เพื่อช่วยส่งเสริมและสร้างเศรษฐกิจให้สะพัดทั่วถึงกับคนในจังหวัดมากขึ้น
นายอับดุลหาลีม ล่าเต๊ะ เลขานุการคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา กล่าวว่า แขกจากประเทศมาเลเซียและต่างประเทศที่คาดว่าจะมีจำนวนมาก “ผมเพิ่งกลับจากการร่วมประชุมสัมมนาเรื่องการบริหารจัดการมัสยิ ด“มัสยิดนูซันตารา 2024” โดยได้รับเชิญจากผู้บริหารรัฐกลันตัน เป็นหนึ่งในสี่มัสยิดจากประเทศไทยที่เข้าร่วมประชุมกับอีกหลายประเทศที่ใช้ภาษามลายูในอาเซียน เช่น กัมพูชา พม่า อินโดนีเซีย มาเลเซีย” นอกจากนั้น ก็มีตัวแทนจาก ประเทศจีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เข้าร่วมด้วย และผมถือโอกาสเชิญชวนหลายๆ องค์กรตัวแทนที่เข้าร่วมประชุมมาร่วมงานของเรา รวมทั้งได้ประสานผู้ประกอบการท่องเที่ยวมาเลเซีย และมัคคุเทศก์ นำเสนอกับนักท่องเที่ยวด้วย “หลายท่านตอบรับเข้าร่วม” นายอับดุลหาลีม กล่าว