ประธานหอการค้า-ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสงขลา มองโอกาสความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับมาเลเซีย หลังร่วมเดินทางไปกับคณะผู้ว่าฯ สงขลา เผยมาเลย์กังวลปัญหาการผ่านด่านฯ “สมพล” จับตามาเลย์ขึ้นราคาน้ำมันดีเชล
หลังจากที่ นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้นำทีมภาครัฐและเอกชนจังหวัดสงขลา ประชุมหารือภาครัฐและเอกชนมาเลเซีย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาความร่วมมือที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดสงขลา ณ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2567นายทรงพล จังศิริวัฒนธำรง ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา กล่าวว่า ปีนังเขามีความพร้อมที่จะร่วมมือกับทางจังหวัดสงขลา โดยเฉพาะการเชิญชวนให้เราไปลงทุนในพื้นที่ของเขา “ขณะนี้ภาคเอกชนเขามีโครงการท่าเรือบกที่รับการสนับสนุนจากรัฐ เป็น และโครงสร้างพื้นฐานรองรับอุตสาหกรรมฮาลาล เขาผลักดันให้เรา ถ้าจะไปลงทุนเขาก็ยินดี” นายทรงพล กล่าว และว่า การไปครั้งนี้ยังจะได้เห็นว่าทางปีนังเขามีความพร้อมในการเตรียมรับการลงทุนใหม่ ๆ เกิดขึ้นเยอะมาก เช่น โครงการคลังสินค้ารองรับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์“มีคลังสินค้า 12 แห่ง ที่รองรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ไมโครชิพ ซึ่งเกิดขึ้นจากที่เขามองการณ์ไกลเป็นระยะเวลา 10 ปีที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ ของปีนังจากเดิมที่นำเข้าส่งออก และเป็นเมืองเก่า”
ทำให้มองถึงเศรษฐกิจในอนาคตใหม่ ๆ ก็คือด้าน อิเล็กทรอนิกส์ ไมโครชิพ ทำให้ตอนนี้การลงทุนของปีนังเกิดขึ้นค่อนข้างเยอะ บริษัทระดับโลกมาตั้งสำนักงานอยู่ที่นั่น รวมถึงการพัฒนามหาวิทยาลัยรองรับการให้บริการต่าง ๆ ทั้งด้านการบริการ โรงแรม และด้านวิศวกรรมที่เขาผลักดันในการผลิตบุคลากรรองรับ “ทำให้เห็นโอกาสของปีนัง อนาคตของปีนัง เขาค่อนข้างเด่นชัดในการวางยุทธศาสตร์” ส่วนการเชื่อมของไทยกับปีนัง ในส่วนของภาค เอกชนได้คุยกันในเรื่องโอกาสในการเชื่อมด้านธุรกิจท่องเที่ยว
นายทรงพล กล่าวต่อว่า งานอีเว้นท์ต่าง ๆ หรือ อุตสาหกรรมที่เราอาจจะขับเคลื่อนต่อในอนาคต เรื่องเมดิคอล รวมถึงการท่องเที่ยวฮาลาล ซึ่งทางมาเลเซียเชิญชวนให้เราไปลงทุน โดยจะได้รับตราสัญลักษณ์ตามมาตรฐานของมาเลเซียซึ่งตราฮาลาลตามมาตรฐานของมาเลเซียที่ครอบคลุมส่งออกไปได้ทั่ว ก็จะเป็นอีกมิติหนึ่งที่เราได้รับข้อมูลจากการพบหารือร่วมกันของภาครัฐ ภาคเอกชนของจังหวัดสงขลากับปีนัง
“ในส่วนที่เราจะขับเคลื่อนร่วมกับเขาส่วนใหญ่เขาก็จะบ่นเรื่องการผ่านด่านฯของเรา อยากให้ ด่านฯใหม่ใช้งานได้ เพราะตอนนี้ติดปัญหาการเข้าออกล่าช้า”
นายสมพล ชีววัฒนาพงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เรื่องที่คุยกันคือ มีข้อปัญหาอะไรบ้างที่คิดว่าการมาเที่ยวจังหวัดสงขลาติดขัดอะไร โดยภาคเอกชนมองเรื่องด่านฯชายแดนว่าจะทำอย่างไรให้สะดวกและรวดเร็วให้มากที่สุด ซึ่งหาดใหญ่-สงขลา เป็นหมุดหมายที่นักท่องเที่ยวมาเลเซียเข้ามาอยู่แล้ว จึงคิดว่าตัวสินค้าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ซึ่งประเด็นวันเทศกาลสำคัญ ๆ ทางฝ่าย มาเลเซียสะท้อนมาว่า ยังเวลาค่อนข้างนานอยู่
“ผมคิดว่าหลังจากที่ด่านฯสะเดาแห่งใหม่เปิดให้บริการ ปัญหาความล่าช้าในการให้บริการบริเวณด่านฯสะเด่าก็น่าจะคลี่คลายลง”
เนื่องจากการให้บริการด่านฯสะเดาเดิมยังติดปัญหาทางกายภาพ ที่ไม่รองรับกับปริมาณของนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่เดินทางเข้ามาในวันที่เทศกาลใหญ่ แต่หากด่านฯสะเดาแห่งใหม่เปิดให้บริการ เรื่องของกายภาพที่ใหญ่ขึ้น บวกกับสิ่งอำนวยความ สะดวก เทคโนโลยี หรือว่ารูปแบบเจ้าหน้าที่ ๆ เข้ามา ดูแล จะทำให้ปัญหานี้จะถูกปลดล็อคไปโดยปริยาย การเดินทางไปครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่นำโดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา หลังจากที่ก่อนหน้านี้
รองผู้ว่าราชการจังหวัดกับภาคเอกชนได้เดินทางไปเป็นระยะ ๆ“ก่อนหน้านี้ ภาคเอกชนเป็นคณะไมซ์ซิตี้ที่ไปเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน แล้วมารอบนี้ แล้วก็ท่านกงสุลไทยที่ปีนังนำคณะของมาเลเซียมาเยี่ยมเราเหมือนกันสลับกันอยู่เป็นประจำ” นายสมพล กล่าว และว่า สถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลาในครึ่งแรกของปี 2567 ตัวเลขนักท่องเที่ยวอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ไม่ได้ติดขัดอะไร ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเพียงแต่ต้องมาดูในครึ่งปีหลังว่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรือเปล่า ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คิดว่าสรุปทั้งปี 2567 จำนวนนักท่องเที่ยวก็น่าจะดีกว่าปี 2566 ที่ผ่านมา
ส่วนปัจจัยสำคัญที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวปี 2567 เพิ่มขึ้นจากปี 2566 นั้น เนื่องจากหาดใหญ่-สงขลา ยังเป็นหมุดหมายที่นักท่องเที่ยวมาเลเซียยังนิยมชมชอบอยู่ปัจจัยที่กำลังติดตามอยู่ในขณะนี้คือ การปรับขึ้นราคาน้ำมันของประเทศมาเลเซีย ที่ปรับเพิ่มราคาน้ำมันดีเซลยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นบวกหรือลบกับการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลา
“ถ้าเป็นมุมบวกการที่ค่าครองชีพในประเทศมาเลเซียสูงขึ้น ทำให้คนมาเลเซียเข้ามาหาดใหญ่-สงขลาเพิ่มขึ้นหรือไม่ ถ้าเป็นมุมลบเมื่อค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมีผลต่อการตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวหาดใหญ่-สงขลา” นายสมพล กล่าว