“นายกชาย” นำภาครัฐ-เอกชน และเยาวชน ร่วม MOU เดินหน้าดูแลรักษา”คลองภูมี” เป็นต้นแบบคลองของประเทศ พร้อมต่อยอดให้ “หาดปากบางภูมี” เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
วันที่ 23 สิงหาคม 2567 ที่หาดปากบางภูมี ต.รัตภูมิ อ.ควนเนียง จ.สงขลา นายเดชอิศม์ ขาวทอง (นายกชาย) สส.สงขลา เขต 5 /เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์, นายธัชธาวินท์ สะรุโณ ที่ปรึกษาพิเศษ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา, นางสาววิไลลักษณ์ เรืองผล นายอำเภอรัตภูมิ, นายวินิจ เทพนิต นายอำเภอควนเนียง, นางจันทร์จิรา บางเสน อุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา, นายอริยะ เชื้อชม ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสงขลา, นายจักรพงษ์ ธารดิษฐ์ ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา, พ.ต.อ. ศิรโกศล ปราบกรี ผกก.สภ.ควนเนียง, พ.ต.ท. ณัฏฐ์วิณัท วิภาศินนท์ รองผกก.รัตภูมิ, นายผล ทองเอื้อ นายกอบต.รัตภูมิ และนายอนุวัฒน์ หมัดแหล๊ะ ประธานนักเรียนโรงเรียนรัตภูมิวิทยา พร้อมส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องผู้นำถิ่น ผู้นำชุมชน ประชาชน และนักเรียนในพื้นที่ร่วมกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างจิตสำนึก ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ วันคลองภูมี ประจำปี 2567
โครงการดังกล่าวติองการปลูกจิตสำนึก ในการรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับจังหวัดสงขลา โดยสร้างคลองภูมีโมเดล ให้เป็นคลองต้นแบบของประเทศไทย เป็นคลองสวยน้ำใสใช้ประโยชน์ได้ มีสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์ และต่อยอดสู่การท่องเที่ยว ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-23 สิงหาคม 2567
ภายในงานมีนักเรียนจากโรงเรียนมัธยมในพื้นที่ได้มาร่วมเรียนรู้กิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมในฐานต่างๆ ตลอดแนวลุ่มน้ำคลองภูมี ,เวทีวิชาการ และการลงนาม MOU ร่วมกันปกป้องคลองภูมี จากทุกภาคส่วนในพื้นที่
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ร่วมกันปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ 10 ล้านตัว ลงสู่คลองภูมี บริเวณหาดปากบางภูมี และแจกจ่ายให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่นำไปปล่อย 19 จุด ตลอดแนวลุ่มน้ำแนวลุ่มน้ำคลองภูมี ในพื้นที่อำเภอรัตภูมิ และอำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลาด้วย
นายเดชอิศม์ ขาวทอง กล่าวว่า คลองภูมีถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงคนในอำเภอรัตภูมิและอำเภอควนเนียงก่อนที่จะไหลงทะสาบสงขลา นับตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา มีการกวดขันจับกุมโรงงานที่ปล่อยน้ำเสีย และกาคจัดการกับบ่อดูดทรายเถื่อนมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำรวมมากกว่า 20 ล้านตัว และผลักดันโครงการก่อสร้างแก้มลิงเก็บน้ำ ประตูระบายน้ำ คันกันตลิ่งพัง ตลอดจนขุดลอกคลองสายต่างๆ มีงบประมาณลงมามากกว่า 600 ล้านบาท ทำให้วันนี้คลองภูมี กลับมาเป็นคลองที่มีชีวิตอีกครั้ง
“จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องร่วมกันดูแลรักษาคลองภูมีให้ยั่งยืน วันนี้ทุกคนมีหน้าที่ ที่จะรักษาคลองภูมีให้เป็นคลองสวยน้ำใสใช้ประโยชน์ได้ มีสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์ และต่อยอดสู่การท่องเที่ยว และเป็นตัวอย่างทั้ในจังหวัดสงขลา ภาคใต้ และประเทศไทย” นายกชาย กล่าว