สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา เขต 7 พรรคภูมิใจไทย เสนอญัตติขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาการพัฒนาพื้นที่จังหวัดสงขลาและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงให้เป็นส่วนหนึ่งกับโครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน (Southern Economic Corridor : SEC
นายณัฎฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา เขต 7 พรรคภูมิใจไทย ได้เสนอญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาการพัฒนาพื้นที่จังหวัดสงขลาและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงให้เป็นส่วนหนึ่งกับโครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน (Southern Economic Corridor : SEC
เนื่องด้วยคณะรัฐมนตรีในคราวการประชุมวันที่ 21 สิงหาคม 2561 ณ จังหวัดชุมพร ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของพื้นที่และกำหนดให้มีการพัฒนา 4 จังหวัดภาคใต้ตอนบนซึ่งประกอบไปด้วยจังหวัดชุมพร จังหวัดระนอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช
ในรูปแบบการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน (Southern Economic Corridor: SEC) เพื่อเป็นฐานเศรษฐกิจใหม่ที่ต่อยอดการพัฒนาจากทรัพยากรและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีอยู่ในพื้นที่ เพิ่มโอกาสในการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยให้มีการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลให้เกิดความยั่งยืนของการพัฒนาในระยะยาว และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชน
รวมทั้งเป็นต้นแบบในการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจใหม่สำหรับภาคอื่นๆ โดยหนึ่งในโครงการที่สำคัญคือโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขุนส่งระหว่างอ่าวไทยอันดามัน หรือโครงการแลนด์บริดจ์ (Land Bridge) คือ ท่าเรือฝั่งอ่าวไทยในจังหวัดชุมพร และท่าเรือฝั่งอันดามันจังหวัดระนอง
โดยในขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาความเหมาะสมทางเศรษฐกิจ การเงิน วิศวกรรม สังคม และการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการบริหารลงทุน นอกจากนั้นยังมีการลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เช่น ด้านการคมนาคม ขนส่ง ด้านแหล่งน้ำและระบบประปา ด้านไฟฟ้า การพัฒนาด้านการท่องเที่ยว และการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะก่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจในบริเวณ 4 จังหวัดดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่อื่น ๆ ของภาคใต้ก็มีศักยภาพที่จะสามารถพัฒนาต่อยอดได้เช่นกัน โดยเฉพาะในเขตจังหวัดสงขลา และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดนราธิวาส ซึ่งต่างมีปัจจัยพื้นฐานที่พร้อมในการรองรับการลงทุนด้านโครงสร้างและการพัฒนาเศรษฐกิจเช่น ท่าเรือสงขลา ซึ่งเป็นท่าเรือหลักในภาคใต้ด้านชายฝั่งอ่าวไทย
โดยทำหน้าที่หลักในการขนส่งสินค้าสำคัญ เช่น ยางพารา และนำเข้าสินค้าสู่ภาคใต้ ซึ่งท่าเรือแห่งนี้สามารถยกระดับให้เป็นท่าเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ได้ รวมทั้งนิคมอุตสาหกรรมสงขลาที่เกิดขึ้นในช่วงรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชาซึ่งสามารถรองรับการลงทุนได้ระดับหมื่นล้านบาท รวมทั้งการพัฒนาเมืองใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยว การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และการส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่น
ซึ่งจังหวัดเหล่านี้ยังขาดการสนับสนุนที่ต่อเนื่องจากรัฐบาลโดยเฉพาะในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ระบบขนส่ง ระบบราง การขยายเส้นทางสัญจร หรือการทำทางยกระดับข้ามแยกไฟแดงตลอดเส้นทาง ถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการเชื่อมโยงระหว่างภาคใต้และภูมิภาคอื่น ๆ ซึ่งหากสามารถเชื่อมโยงโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้มาสู่พื้นที่จังหวัดสงขลาและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ จะทำให้เกิดกระจายการลงทุน การพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว และยกระดับความเป็นอยู่ให้แก่ประชาชนได้อย่างทั่วถึง ต่อไป
ดังนั้น จึงขอเสนอญัตติดังกล่าวมาเพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการพัฒนาพื้นที่จังหวัดสงขลา และ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงให้เป็นส่วนหนึ่งกับโครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน (Southern Economic Corridor : SEC) ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ข้อ 49 ส่วนเหตุผลและรายละเอียดจะได้ชี้แจงในที่ประชุมสภาฯ ต่อไป
////////////////////////////
สำนักข่าวโฟกัส