“สส.น้ำหอม“ นางสาว สุภาพร กำเนิดผล สส.สงขลา เขต พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ ”ภรรยา“ สะท้อนชีวิต และวิถีการเมืองของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายเดชอิศม์ ขาวทอง “นายกชาย” หรือ “รัฐมนตรีชาย” สส.สงขลา เขต 5/เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคนในครอบครัวที่เห็นมุมชีวิต ทั้งผิดหวังและสมหวัง ตลอดเส้นทางการเมือง “การไม่ยอมแพ้และเลือดนักสู้” ต้นทุนการเมืองที่ต่ำกว่านักการเมืองหลายๆ คน ทำยังไงเพื่อก้าวข้ามและผ่านมาได้ รวมถึงในโอกาสรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข
มุมมองต่อความเป็น “นายกชาย”
ในความเป็นส่วนตัว นายกชาย เป็นสุภาพบุรุษ ให้เกียรติ เอาใจใส่ ทั้งภรรยาและลูก ๆ ให้ความรักและสร้างความอบอุ่นให้ครอบครัวในทางสังคม พี่ชายเป็นคนที่มีจิตอาสาและเสียสละอย่างมากในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาและพัฒนาสังคน ทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องกิจการของชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสิ่งแวดล้อม พี่ชายพูดเสมอว่า อยากเห็นทะเลลาบสงขลาและลำคลองสาขาต่างๆ มีน้ำใสเป็นธรรมชาติ มีสัตว์น้ำอุดมสมบูรณ์ เหมือนในอคีตที่เคยมีประสบการณ์มาแต่เด็ก
“พี่ชายเป็นคนมีน้ำใจ เป็นมิตรกับทุกคนจึงมีเพื่อนเยอะ ทุกระดับ ซึ่งเป็นจุดเด่นของพี่ชาย แต่ขณะเดียวกันก็เป็นจุดอ่อนไปด้วย”
ถ้าคนที่รู้จักเป็นเพื่อนหรือสนิทกับพี่ชาย และเขามีพฤติกรรมส่วนตัวไม่เหมาะสมหรือไปทำสิ่งผิดกฎหมาย โดยพี่ชายไม่มีส่วนรู้เห็นเลย เพียงคบกันในลักษณะของ “การรู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ” สังคมก็กล่าวหามาถึงพี่ชายโดยอาศัยข้อมูลเพียงรูปถ่ายรูป สองรูป ในกิจกรรมต่าง ๆ ที่พบกัน
จากอดีต ลงสมัครนายกอบจ. พ่ายแพ้เลือกตั้ง แล้วมาสมัคร สส.พรรคไทยรักไทย แพ้ ก็แพ้อีก พอมาเข้าประชาธิปัตย์ ได้เป็นสส. และเลขาธิการพรรค ก่อนเป็นรัฐมนตรีในวันนี้ มองเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างไร
พี่ชายมีความมุ่งมั่นตั้งใจเป็นอย่างมาก ที่จะเข้าทำงานการเมืองระดับชาติในนามพรรคประชาธิปัตย์ เท่าที่ทราบได้เคยไปเสนอตัวต่อพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่ได้รับโอกาส จึงได้ไปสมัครในนามพรรคไทยรักไทย ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าโอกาสจะได้มีน้อย เพราะคนภาคใต้ผูกพันธ์อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์มายาวนาน จนมีคำพูดว่า
“สส.ภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์ส่งเสาไฟฟ้าลงสมัครก็ได้”
แต่พี่ชาย บอกว่าต้องการเสนอตัวให้คนสงขลาได้รับรู้ว่านายกชาย เป็นคนสงขลาอีกคนหนึ่งที่อาสามาเป็นผู้แทนของพี่น้องในการเลือกตั้ง ปี 2562 กระแสของพรรคประชาธิปัตย์เริ่มตกลง เพราะมีพรรคการเมืองเกิดใหม่ที่นำโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่คนภาคใต้ชื่นชอบและมีนักการเมืองจากพรรคประชาธิปัตย์หลายคนแยกตัวมาเข้าพรรคนี้ด้วย ประกอบกับการมีพื้นที่ว่างในเขตเลือกตั้งที่ 5 สงขลา พี่ชาย จึงได้รับโอกาสให้ลงสมัคร สส.เขต 5 ได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนสูงสุดในจังหวัดสงขลา
และการเลือกตั้งครั้งต่อมาในปี 2566 พี่ชาย ก็ยังคงได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนที่สูง ในปีนี้ พรรคประชาธิปัตย์ มีสส.จำนวนลดลงมาก มีเพียง 25 คนเมื่อการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรค พี่ชายก็ได้รับเลือกตามระเบียบหรือข้อบังคับพรรคให้ทำหน้าที่ เลขาธิการพรรค และต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลครั้งล่าสุด พรรคประชาธิปัตย์ก็ได้รับเชิญเข้าร่วมรัฐบาล พรรคก็มีมติให้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค เข้าร่วมคณะรัฐมนตรี ก็เป็นไปตามครรลอง
”ความเปลี่ยนแปลงในตัวนายกชาย เท่าที่สังเกตคือ การจะคิดจะพูดและพฤติกรรมและการดำเนินชีวิตต่างๆ ต้องระมัดระวังมากขึ้น เพราะมีประชาชนและสื่อ รวมถึงนักวิจารณ์ต่าง ๆ เฝ้าจับตามอง“
อะไรคือ จุดเด่นในการเป็นผู้นำการเมืองของนายกชาย และอะไรคือจุดที่ต้องปรับปรุง หากจะไปต่อ
จุดเด่นน่าจะเป็นบุคลิกส่วนตัวเป็นคน ”คบคนง่าย“ จึงมีเพื่อนมาก ทั้งประชาชนทั่วไป สมาชิกพรรค และเพื่อสส. สิ่งเหล่านี้เป็นพลังหนุนให้พี่ชาย ก้าวเดินทางการเมืองได้รวดเร็ว เมื่อมาเป็นสส.พรรคประชาธิปัตย์ แต่ขณะเดียวกัน สิ่งนี้ก็เป็นจุดด้อยที่ฝ่ายตรงข้ามนำไปวิพากษ์โจมตี ดังปรากฏเป็นข่าวในสื่อต่างๆ
สิ่งที่เป็นข้อวิจารณ์มากมายในครั้งนี้ของนายกชาย น้องมองอย่างไร
ให้คิดบวก ข้อวิจารณ์ของแต่ละคนก็มาจากความคิดความเชื่อที่มาจากข้อมูลที่แตกต่าง ไปห้ามเขาไม่ได้ สิ่งที่ต้องปรับปรุงคือ ตัวพี่ชายเอง เมื่ออาสามาทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ก็ต้องทำงานตามภารกิจหน้าที่ให้หลักยึดประโยชน์ประชาชนเป็นที่หนึ่ง ไม่ทำสิ่งที่จะทำให้สังคมหวาดระแวงไม่สบายใจ ส่งเสริมให้ข้าราชการที่ร่วมงานด้วยมีความสบายใจมีความสุข ร่วมทำงานอย่างมีคุณภาพ ผลงานจะเป็นเกราะคุ้มภัยให้
นายกชาย จะเป็นโอกาสของการพัฒนาจังหวัดสงขลา ได้อย่างไรบ้าง
ถ้ามองในมุมมองของการพัฒนาจังหวัด ก็มีส่วนร่วมใน 2 มิติ คือในบทบาทของสส.เขต 5 จังหวัดสงขลา และในบทบาทของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข แน่นอนว่าบทบาทนี้ต้องดูแลการพัฒนาด้านสาธารณสุขของคนไทยทั้งประเทศ แต่สำหรับจังหวัดสงขลา ก็สามารถหนุนเสริมการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลได้มากขึ้นเป็นลักษณะ ทูอินวัน คือเป็นทั้ง สส.และรัฐมนตรีช่วยฯ
อะไรคือ ความเป็นนายกชาย ที่สส.น้ำหอมสัมผัสได้ โดยสังคมส่วนใหญ่ไม่เห็น และไม่ปรากฏผ่านสื่อ
คนยังเรียกพี่ชาย ว่า “นายกชาย” เป็นชื่อติดตัวมาเป็นเวลาประมาณ 20 กว่าปีแล้ว เป็นภาพจำของประชาชนในความเป็นผู้นำ แบบนักเลงในทางบวกคือ ใจถึง พึ่งได้ เสียสละอาสาแก้ปัญหาของส่วนรวม แต่ไม่ใช่ในเรื่องผิดกฎหมาย จนมีสโลแกนว่า “นายกชายเมื่อได้รู้จักแล้วจะรัก” อะไรทำนองนี้
สงขลา เคยมีรัฐมนตรีหลายท่าน ความคิดหรือความคิดหวังสำหรับนายกชายในครั้งนี้ มองอย่างไร
ข้อนี้ อยากให้ประชาชนตอบมากกว่า แต่ในส่วนตัวในฐานะภรรยา และ สส.คนหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ อยากบอกว่าให้กำลังใจ ให้พี่ชายมีความเข้มแข็ง อดทนต่อปัญหาและสามารถนำนโยบายรัฐบาลไปขับเคลื่อนในกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับพี่น้องข้าราชการทุกระดับ รวมถึงเครือข่ายต่างๆ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการบริการสาธาราณสุขที่พี่น้องประชาชนทุกพื้นที่เข้าถึงได้ และมีคุณภาพที่ใกล้เคียงกัน