Home » ข่าว » “พี่เอี้ยง”นักเรียนทุน สืบปณิธานป๋า

“พี่เอี้ยง”นักเรียนทุน สืบปณิธานป๋า

นายชาญวิทย์​ รัตนชาติ​ หรือ​ “พี่เอี้ยง”​ ศิษย์เก่า​ดีเด่น​ มหา​วิทยาลัย​แม่โจ้​ ปี​ 2544 และศิษย์เก่า​ดีเด่นวิทยาลัย​ประมง​ติณสูลา​นนท์​/ ผู้ก่อตั้งวิสาหกิจชุมชนบ้านเทพหยา ศูนย์เรียนรู้ส่งเสริมคนดี สู่วิถีพอเพียง ตามดำริ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ต.ป่าขาด อ.สิงหนคร จ.สงขลากล่าวว่า​ ตนเกิดและเติบโตที่บ้านหัวป่า ต.บ้านขาว​ อ.ระโนด จ.สงขลา​ ที่บ้านมีพี่น้องหลายคน​ฐานะค่อนข้างยากจน​ มีที่ดินอยู่ไม่มาก​ แต่พ่อกับแม่ก็บริจาคที่ดินให้กับโรงเรียนวัดหัวป่า​ ซึ่งมี ครูผัด จันทน์เสนะ (บิดาของนายบัญญัติ จันทน์เสนะ) เป็นครูใหญ่​ในขณะนั้น​ ทำให้มีที่ดินสร้างโรงเรียน​ จากเดิมตั้งอยู่ในวัด​

อีกทั้ง ยังบริจาคที่ดินให้กับชลประทานทุ่งระโนดในการจัดตั้งสำนักงาน​ชลประทานด้วย​ และพ่อได้ทำงานเป็นคนงานในชลประทาน​ทำให้มีเงินเดือน​จุน​เจือครอบครัว​

หลังเรียนจบ​ ม.3​ ที่โรงเรียนตะเครียะวิทยาคม​ ได้สมัครเรียนที่ “วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์​ รุ่นที่ 4”โดยทาง​วิทยาลัย​ฯ เปิดโอกาส​ให้นักเรียนที่ตั้งใจเรียน​ เป็นเด็กดี​ และเกรดเฉลี่ย​ 2.50 ขึ้นไป​ สมัครเข้ารับทุนการศึกษา​

“ผมมีคุณสมบัติ​ครบถ้วน​ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการได้รับทุนของมูลนิธิพลเอกเปรม​ ติณสูลานนท์ ในปี 2530” พี่เอี้ยง กล่าว และว่า

ความรู้สึก​ที่ได้รับทุน​ สามารถแบ่งเบาภาระที่บ้านได้มาก​ ได้ค่าเล่าเรียนปีละ 5,000 บาท เหลือเก็บก็นำเงินให้พ่อแม่ซื้อของทำการเกษตร​ และได้ช่วยเหลือครอบครัว

ทุก ๆ ปีจะมีการจัดพิธีมอบทุนการศึกษา​ ตนได้เข้ารับจากมือ “ป๋าเปรม” ท่านได้ให้โอวาทว่า​ “เราเป็นนักเรียน​ การศึกษา​จะทำให้คุณภาพชีวิต​ดีขึ้น​ และเด็ก​ ๆ​ ในสงขลายังลำบากอีกมาก​ จึดเปิดโอกาส​ให้ทุนการศึกษา​กับเด็กเยาวชน”​

ทุนการศึกษา​ดังกล่าว​เป็นทุนต่อเนื่อง​ หากนักเรียนรักษา​คุณภาพ​การเรียน​ที่ดีก็จะได้รับทุนจนจบวิทยาลัย​ และจะพิจรณา​คัดเลือก​นักเรียน​ 1​ คน​ ที่ได้รับทุนไปเรียนต่อระดับปริญญาตรี​ที่มหาวิทยาลัย​แม่โจ้​ จังหวัด​เชียงใหม่​ ค่าเล่าเรียนปีละ​ 7,000​ บาท

“การเรียนของผม​ เกรดเฉลี่ย​สะสมสูงขึ้นเรื่อย​ ๆ​ทางวิทย​าลัยเห็นว่ามีคุณสมบัติ​ตรงตามความต้องการ​ คือ​ 1.​ การเรียนเป็นไปตามเกณฑ์​ 2.​ มีความประพฤติ​ดี​ และ​ 3.​ มีการช่วยเหลือครูและวิทยาลัย​ จึงได้รับเลือกให้ได้รับทุนเรียนต่อปริญญาตรี”​

“ป๋าให้ความสำคัญกับการศึกษา​ ท่านบอกว่าประเทศไทยมีเยาวชนเป็นอนาคตของชาติ​ ความยากจนจะเป็นต้นเหตุของปั​ญหา​ ถ้ามีการศึกษา​ มีความรู้ ความคิดที่ดี​ ปัญหาความยากจนจะหมดไป”


ดังนั้น​ การศึกษาเป็นพื้นฐาน​ที่จำเป็นอย่างยิ่ง​ ป๋าจึงริเริ่มตั้งมูลนิธิ​เพื่อให้ทุนการศึกษา​แก่เยาวชน​ และต่อยอดให้เด็กมีโอกาสทางการศึกษ​ามากขึ้น​

พี่เอี้ยง เล่าว่า หลังจบมหาวิทยาลัย​ ได้ทำงานบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์​ ในตำแหน่งฝ่ายขาย​และทราบว่าป๋าเป็นประธานที่ปรึกษา​กิตติมศักดิ์ต่อมาได้อาสาโอนย้ายไปทำงานในโครงการพัฒนาอาชีพ​ตามดำริของ​ พลเอกเปรม​ ติณสูลานนท์​ ที่จังหว​ัดสงขลา​ เพื่อแก้ปัญหา​ความยากจน​ ยกระดับ​คุณภาพชีวิต​ ภายใต้​รูปแบบรัฐร่วมเอกชน​ หรือ​คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน​ (กรอ.)​ โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ร่วมสนับสนุน​ และย้ายมาทำงานกับมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์

การศึกษาเพื่อพัฒนา​ มีเส้นทางและเป้าหมาย​ให้คนมีความรู้ที่ถูกต้อง นอกจากสร้างความรู้แล้วต้องสร้างความรัก ช่วยเหลือแบ่งปัน ความรู้ต้องอยู่ในพื้นฐานของความสามัคคี​ ช่วยเหลือเกื้อกูล​กัน​ การศึกษานำไปสู่ความรู้​รักสามัคคี​ เข้าถึงและพัฒนาในท้ายที่สุด

แนวคิดการทำงานที่ได้จากป๋า​ การลงชุมชน​ คือ​ 1.​ การพัฒนาการศึกษา​ จากที่ตนได้รับการศึกษาแล้ว​ เราต้องส่งต่อให้ผู้อื่นด้วย​ 2.​ พัฒนา​สุขภาพอนามัย​ ดูแลสุขภาพของชาวบ้าน​ และ 3. การประกอบอาชีพ​ โดยทำทั้ง​ 3 อย่างนี้ควบคู่กันไป

“ป๋ามีแนวคิดที่หนักแน่นว่า เราต้องช่วยเหลือผู้อื่นจนกว่าเราจะสิ้นชีวิต​ ​มาช่วยป๋ามาเป็นทีมเดียวดูแลสังคมเหมือนที่ป๋าทำ​ โดยมี​ป๋าเป็นต้นแบบ”

ในการงานชุมชน ป๋าบอกว่า​ การเข้าไปทำงานในชุมชน​ เราไม่ใช่เจ้านายของชาวบ้าน​ แต่เป็นมิตรเป็นคู่คิด​ การทำงานกับชาวบ้านมีทั้งข้อดีเสีย ต้องใช้มิตินุ่มนวลอย่างเดียว​ อย่าไปแข็งกับชาวบ้าน​ เป็นคำสอนของป๋า

ฉะนั้น​ ปัญหาอยู่ที่ชุมชน​ อย่านั่งอยู่ที่โต๊ะเพียงอย่างเดียว​ แต่ต้องลงไปที่เกษตรกรเรา​ จึงรู้ปัญหาคลุกคลีกับชาวบ้าน​ ข้อมูลที่ได้ต้องมาจากชาวบ้านที่เป็นข้อเท็จจริง​ ป๋าจะถามถึงปัญหาที่เกิดขึ้น​ ลำดับความสำคัญ​ และการแก้ปัญหา​ โดยคอยให้คำปรึกษาโดยตลอด

“ในวันเกิด ป๋า​ไม่ต้องการดอกไม้หรืออะไร​ เพียงแค่นักเรียนทุนเขียนจดหมายมาบอกเล่าว่า​ ได้ทำความดีอะไรไปบ้าง​ แค่นี้ก็พอใจแล้ว”

พี่เอี้ยง กล่าว ต่อว่า จากการที่จังหวัด​สงขลาจะประกาศให้วันที่ 26 สิงหาคม เป็น​ “วันการศึกษา”​เพื่อสืบสานเจตนารมณ์ป๋า​ มองว่าการศึกษาจะสร้างคนให้มีความรู้​ ความคิด​ ให้เป็นคนดี​ สติปัญญาเกิดขึ้นได้จากการศึกษา สิ่งที่​ป๋าทำเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน​

ป๋า บอกเสมอว่า​ อยากให้เป็นคนดีมากกว่าคนเก่ง​ ถ้าเป็นคนดีได้​ ความเก่งก็พัฒนาได้ไม่ยากนัก​การเป็นคนดีสำคัญ​มาก​ ไม่เบียดเบียนตัวเอง ผู้อื่น​ เป็นมิตรกับตัวเอง​ และสังคม

พี่เอี้ยง บอกด้วยว่า ได้มีโอกาสติดตามป๋า​ จึงได้ถามถึงที่มาของคำว่า​ “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณ​แผ่นดิน”​ ป๋าไม่ได้ตอบในทันที​ แต่จะให้คำตอบโดยส่งแฟกซ์​มาความว่า คิดตั้งแต่เป็น​ นรม.​ (นายกรัฐมนตรี)​ มีที่มาจากที่ได้มีโอกาส​ติดตามล้นเกล้าทั้ง​ 3​ พระองค์​ สมเด็จย่า​ ในหลวงรัชกาล​ที่​ 9​ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์​ ทำให้ป๋าหล่อหลอม​แนวคิดที่ว่า​ “คนเราเกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณ​แผ่นดิน​” เป็นคนดี​ รู้จักบุญ​คุณ​คน​ และบุญคุณแผ่นดิน​

“ป๋าสอนว่า​ ถ้าเราเป็นคนดี​ไม่ว่า​อยู่ในองค์กรหรือหน่วยงานไหน​ อย่ามองหาความดี​ แต่ต้องสร้างความดี​ เมื่อสร้างแล้วต้องรักษายไว้ด้วย​ การสร้างความดีกับรักษา​ความดี​ เป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่​กัน​ ถ้าความดีขาดตอน​เปรียบเหมือนปากกาขาดตอนใช้ไม่ได้​ คนก็เช่นกันถ้าดีบ้างไม่ดีบ้าง​ แสดงว่าเป็นคนที่ใช้ไม่ได้”​ พี่เอี้ยง​ กล่าว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *